คงจะดีไม่น้อย หากเราสามารถรักษาแว่นตาให้อยู่กับเราไปได้นานๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่จริงๆ แต่สำหรับบางท่าน แว่นตาตัดมาใช้แปปเดียวก็พังซะแล้ว ไม่ว่าจะแว่นหัก เลนส์ไม่ใส เลนส์เป็นรอย ต้องเสียเงินซื้อใหม่อีก แว่นตาดีๆอันนึงก็ไม่ใช่ถูกๆซะด้วย

จากการพูดคุย สอบถามลูกค้ามามากมายและประสบการณ์การทำแว่นมานานกว่า 30 ปี ทำให้พบว่า ลูกค้าที่มีปัญหาแว่นหัก เลนส์พัง ส่วนมากมักจะมีพฤติกรรมการใช้แว่นตาคล้ายๆกัน
        “ฉันก็แค่......... แล้วมันก็หักออกมาแบบเนี่ย”
        “ปกติก็ทำแบบนี้ตลอดไม่เห็นเป็นไร แต่อยู่ๆรอบนี้มันก็.....”
จนเราพอจะสรุปออกมาได้ว่า เพราะทำแบบนี้แหละ แว่นคุณถึงเสีย

ดังนั้น หากใครที่ “แว่นพัง” บ่อยๆ ลองนับดูว่าคุณกำลังทำพฤติกรรมทำร้ายแว่นตาอยู่กี่ข้อกัน

 1. ไม่ล้างแว่นตา    

        แว่นตาอาจดูเหมือนไม่ได้เลอะ แต่ความจริงแล้ว แว่นตาสัมผัสทั้งเหงื่อ ฝุ่นละอองและคราบต่างๆมากมายโดยที่เราไม่ทันได้สังเกต หากไม่ล้างแว่นตา สิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะสะสมอยู่ โดยเฉพาะเหงื่อที่เป็นศัตรูตัวฉกาจ ค่อยๆกัดจนแว่นผุทำให้แว่นตาเสี่ยงต่อการหักมากขึ้นหลายเท่า ดังนั้น ล้างแว่นอย่างน้อยวันละครั้ง จะช่วยยืดอายุแว่นตาได้อีกนานเลยค่ะ

 2. ไม่ราดน้ำก่อนเช็ดแว่น    

        การราดน้ำก่อนเช็ดแว่น จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆออกไปจากเลนส์ เพราะการใช้ผ้าเช็ดแห้งลงไปบนแว่นตาที่มีฝุ่นและคราบต่างๆ แทบจะเทียบได้กับการใช้กระดาษทรายถูไปบนเลนส์เลยค่ะ ซึ่งเมื่อเลนส์เป็นรอยแล้ว ไม่สามารถขัดได้ ต้องเปลี่ยนเลนส์ใหม่เท่านั้นและยังทำให้ผิวโค้ทที่เคลือบอยู่บนเลนส์(เพื่อกันรังสีUV กันแสงสะท้อนต่างๆ ตามแต่ชนิดของผิวโค้ท) เกิดรอย เสี่ยงต่อผิวโค้ทหลุดลอก ส่งผลให้เลนส์ไม่ใส ใช้งานได้ไม่นานค่ะ

 3. ปล่อยแว่นตาให้แห้งเอง    

        ในน้ำประปามีสารและแร่ธาตุหลายอย่าง เวลาล้างแก้วแล้วทิ้งให้แห้งเอง จะเห็นเป็นรอยคราบน้ำเกาะอยู่บนแก้วกันใช่ไหมคะ หากเราไม่ได้เช็ดแว่นตาหลังล้าง แว่นตาของเราก็จะมีรอยคราบตะกอนเหล่านั้นติดอยู่เช่นกันค่ะ ยิ่งถ้าทำบ่อยๆ ตะกอนที่มีอยู่ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆจนฝังแน่น อาจล้างไม่ออก ทำให้เลนส์ไม่ใส รบกวนการมองเห็น นอกจากนี้บริเวณข้อต่อหรือแป้นจมูก หากทิ้งให้น้ำขังอยู่นานๆ จะทำให้เป็นสนิมหรือมีคราบเขียวๆได้ค่ะ

 4. ทิ้งแว่นตาไว้ในรถ    

        ลองจินตนาการถึงความร้อนในรถที่ถูกจอดตากแดดไว้ทั้งวันดูสิคะ แทบจะเรียกได้ว่าเตาอบดีๆนี่เอง ความร้อนที่สูงเกินไปจะทำลายทั้งเลนส์และกรอบแว่น โดยจะทำให้ผิวโค้ทที่เคลือบเลนส์เสื่อมสภาพ เลนส์ไม่ใส รบกวนการมอง และทำให้กรอบแว่นตาส่วนที่เป็นพลาสติกบิดเบี้ยว ผิดรูป ซึ่งในบางกรณีไม่สามารถดัดกลับคืนสภาพเดิมได้ จึงไม่แนะนำให้เก็บแว่นตาไว้ในรถหรือในที่ที่มีความร้อนสูงนะคะ

 5. ไม่เก็บแว่นในกล่อง    

        กล่องแว่นตา เป็นเหมือนตัวช่วยป้องกันแว่นหักหรือเสียทรงจากการนั่งทับ ทำแว่นตก หรือใครที่เก็บแว่นไว้ในกระเป๋า กล่องแว่นก็จะช่วยไม่ให้แว่นตาได้รับความเสียหายจากของอื่นๆในกระเป๋า เพราะในบางครั้งหากแว่นตาเสียทรงมากเกินไปหรือเป็นที่จุดเดิมซ้ำๆ การดัดแว่นกลับจะมีความเสี่ยงที่แว่นตาจะหักได้ รู้แบบนี้แล้วไม่ว่าจะตั้งไว้บนโต๊ะ บนเตียงหรือเก็บไว้ในกระเป๋า อย่าลืมเก็บแว่นตาไว้ในกล่องนะคะ

 6. คาดแว่นไว้บนศีรษะ    

        นอกจากจะทำให้แว่นตาเสียทรงได้ง่าย ยังเสี่ยงต่อการตกลงมากระแทกพื้นและทำแว่นหล่นหายด้วย เพราะช่วงศีรษะด้านบนของเรามีความกว้างกว่าช่วงขมับ ขาแว่นจึงกางออก ไม่พอดีกับหน้า ท้ายที่สุดแล้วแว่นจะหลวมจนไหลลงมาอยู่ปลายจมูกทุกครั้งที่สวมใส่

 7. ถอดแว่นมือเดียว    

        ส่วนมากลูกค้าที่ขาแว่นหัก มักจะมาด้วยสาเหตุนี้ เพราะเวลาที่เราถอดแว่นมือเดียว ขาแว่นอีกข้างจะถูกง้างออก เมื่อทำซ้ำๆ จุดที่โดนง้างออกบ่อยๆก็จะหักในที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายแบบนี้ เวลาถอดและใส่แว่นตา ควรใช้มือทั้งสองข้าง เพื่อช่วยประคอง รักษาทรงแว่นตา ลดเกิดการบิดหรือง้างแว่น

 8. ดัดแว่นเอง    

        หากแว่นตาที่ใส่อยู่เสียทรง ใส่ไม่สบาย ควรนำไปให้ร้านแว่นตาปรับดัดให้ เพราะการดัดแว่นตา ต้องอาศัยประสบการณ์ความชำนาญและในบางจุดต้องใช้คีมดัดแว่นตาและเทคนิคเฉพาะ เพื่อป้องกันเลนส์กระเทาะ เลนส์แตก กรอบหักหรือความเสียหายอื่นๆ การดัดแว่นตาเองบางทีอาจทำให้แว่นตาเสียทรงไปมากกว่าเดิมหรืออาจทำให้แว่นตาหัก พังไปเลยก็ได้

ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ดูนะคะ ดีกว่าต้องเสียเงินตัดแว่นใหม่บ่อยๆอย่างแน่นอน

ผู้เขียน ศูนย์สายตาสว่าง